ผีควรได้จุดโทษ โดย เจมี่ เร้ดแน็ปป์ และ เกล็นน์ เมอร์เรย์ 2กูรูคนดังมองว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรได้จุดโทษจากจังหวะที่ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ โดนกระแทกล้มลงในกรอบเขตโทษจนล้มลงทั้งๆที่ถึงบอลก่อนแต่กลับไม่ได้จุดโทษ ในเกมกับ คริสตัล พาเลซ เมื่อคืนที่ผ่านมา

ในเกมดังกล่าว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ยกทัพออกไปเยือน คริสตัล พาเลซ และเป็นฝั่งทีมเยือนที่สามารถทำประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากประตูของ บรูโน่ แฟร์นานเดส ที่ซัดให้ทีมขึ้นนำไปก่อน ก่อนจะโดนทีเด็ดเจ้าบ้านจากลูกฟรีคื้กในช่วงทดเวลาท้ายเกมจาก มิเชล โอลิเซ่ ซัดฟรีคิ้กสุดสวยเสียบใต้คานเข้าไปทำให้ทีมตีเสมอ 1-1 และหยุดสถิติชนะรวดของ ยูไนเต็ด ไว้ที่ 9 เกม

แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญในเกมนี้คือจังหวะที่ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูก คริส ริชาร์ดส์ กองกลางของ พาเลซ แหย่ขาพร้อมเบียดล้มลงในเขตแต่กรรมการกลับไม่เป่าฟาวล์ให้เป็นจุดโทษ แถม VAR ก็ไม่เช็คในจังหวะดังกล่าวอีกด้วย ทำให้กูรูฟุตบอลอย่าง เร้ดแน็ปป์ และ เมอร์เรย์ รู้สึกงงกับการตัดสินของกรรมการและ VAR ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดย เมอร์เรย์ กล่าวกับ Sky Sports ว่า

“ผมคิดว่ามันเป็นจุดโทษนะ เราได้เห็นจังหวะแบบนี้หลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา และมันเป็นเรื่องยากจริงๆ ผมเห็นว่า แม็คโทมิเนย์ ถึงบอลก่อน ริชาร์ด แหย่ขาเข้ามาและผมเห็นว่ามันไม่โดนบอลเลยด้วยซ้ำ มันควรเป็นจุดโทษ แล้วทำไมกรรมการถึงไม่ไปดูจอมอนิเตอร์เพื่อตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหละ ผมไม่เข้าใจเลย”

เร้ดน็ปป์ ก็เห็นด้วยกับความเห็นดังกล่าว และเขาได้กล่าวเสริมว่า “ผมเห็นด้วยกับเกล็น เท้าขวาเขาขัดขาแม็คโทมิเนย์ชัดเจนมาก มันโดนขาชัดเจน ผมไม่เข้าใจนะบางครั้ง VAR ก็ดูบางเหตุการณืนาน 5-10 นาที ทั้งๆที่มันชัดเจนมาก เพราะงั้นเหตุการณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งทีมนึงทำไมเขาถึงไม่เสียสละเวลาดูสักนิดนึง”

“โดยส่วนตัวแล้วผมว้ามันชัดนะ เป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมของแม็คโทมิเนย์ เขาหลอกริชาร์ดได้ดีและรอการโดนปะทะและริชาร์ดก็ไม่โดนบอลเลยด้วยซ้ำ เขาคิดว่ามันฟาวล์ แต่ไม่ฟาวล์ และริชาร์ดจึงรอดตัวไป”

เมอร์เรย์ เสริมขึ้นอีกว่า “แม็คโทมิเนย์ ไม่ใช่นักเตะที่จะพุ่งล้มในกรอบเชตโทษแล้วพุ่งล้มอะไรแบบนั้น เขาไม่ใช่นักเตะประเภทนั้น เขาโดนบอลก่อน โดนกระแทก แต่เขากลับไม่ได้จุดโทษ”